อากาศร้อนๆไปนอนกลางทะเลมัลดีฟส์กันดีกว่า...
ใครที่รับ vitamin-sea ที่ไทยกันเยอะแล้ว ลองไปรับที่ต่างแดนกันดูบ้างดีกว่าเนอะ วันนี้แอดมินเลยขอนำเสนออีก 1 ทะเลที่ใครๆก็อยากไปสักครั้งแน่นอน เกาะส่วนตัวที่ให้คุณเที่ยวเล่นได้ทั้งเกาะ น้ำใสมากๆ ชายหาดก็ขาวสะอาด และยังมีที่พักที่ยื่นไปกลางทะเล สามารถนอนฟังเสียงคลื่นได้ทั้งคืน จะเป็นที่ไหนไม่ได้นอกจาก ?มัลดีฟส์? นั่นเอง พูดมาขนาดนี้หลายคนคงจะคิดว่าเห้ยมัลดีฟส์นะแก แพงงงงง ไม่ไหวหรอก แต่ใครจะคิดว่าแค่ 19,900 ก็ไปนอนรีสอร์ทหรูกลางทะเลที่สวยระดับโลกได้แล้ว
ที่พักที่นี่จะตั้งแยกเป็นเกาะๆ 1 เกาะจะมีแค่ 1 โรงแรม แต่ละโรงแรมก็จะมีหลาย Package ให้คุณเลือก เช่น All Inclusive คุณก็ไม่จำเป็นต้องพกเงินเลยเพราะคุณสามารถกินอะไรก็ได้ที่คุณต้องการ!!! แอลกอฮอล์ก็รวมอยู่ในนี้ด้วย มันก็จะฟินๆนะเธอ หรือบางคนที่อาจจะติดขัดเรื่องภาษาคุณยังสามารถเลือกโรงแรมที่อยู่ในเครือของไทยซึ่งจะมีพนักงานต้อนรับที่พูดไทยได้ รู้อย่างงี้แล้วรู้สึกอยากไปขึ้นอีกเป็นกองเลยใช่ม้า
สำหรับใครที่วางแพลนจะไปแอดมินแนะนำซื้อ Package กับทัวร์เหมือนกับแอดมินเลยก็ดีครับ เพราะคุณจะได้ราคาที่ถูกกว่าการจองเองมาก!!! และยังโครตง่ายยย เราไม่ต้องจัดการอะไรเองเลยเพียงแค่คุณต้องมี Passport คุณก็สามารถเดินทางได้เลยครับ ของแอดมินจองไปกับ Maldivespluss ราคาเค้าดีมากเลย จองง่าย แถมบริการโอเค ลองดูรายละเอียดได้ที่ http://www.maldivespluss.com/ ครับ มีให้เลือก package หลายแบบเลย มีรายละเอียดบอกไว้ชัดเจน
ไปดูรูปกระตุ้นความอยากไปกันหน่อยดีกว่านะ
หลังจากเดินทางกันมาอย่างเหน็ดเหนื่อยกว่า 4 ชั่วโมงก็มาถึงสนามบิน Male สนามบินแห่งเดียวในมัลดีฟส์ สำหรับใครกลัวจะหลงที่นี่ไม่ต้องกลัวเลยครับสนามบินที่นี่เล็กมาก แค่เดินออกมานิดเดียวก็เจอทะเลแล้วครับ
เราได้จอง Package เที่ยวบินพร้อมที่พักแบบ All inclusive มากับทาง @Maldivespluss แล้ว ก็จะมีพนักงานมาต้อนรับพามาขึ้น Speed Boat ไปรีสอร์ท ก็จะดูสบายๆแอบ Hi หน่อยๆ
ใช้เวลาแค่ 15 นาทีก็ถึงรีสอร์ทแล้วครับ สำหรับทริปนี้เราพักกันที่ "Centara Ras Fushi Resort and SPA Maldives" บางรีสอร์ทที่ตั้งอยู่ห่างจากสนามบินจะต้องขึ้น Sea plane ไปครับ
ตอนอยู่ที่สนามบินคิดว่าทะเลสวยน้ำใสแล้วใช่ไหมครับพอมาถึงรีสอร์ทสวยกว่าไปอีกครับทุกคน ผมนี่ทนไม่ไหวต้องรีบหยิบกล้องมาถ่ายรูปรัวๆๆไปเลยครับ
หลังจากถ่ายรูปกันจนพอใจแล้วพนักงานก็จะขับรถกอล์ฟพาเรามา Check in ที่ Lobby ตรงนี้ก็จะมี Welcome drink แจกด้วย เรียบร้อยแล้วก็ไปส่งเราที่ห้องพัก เอ้อสบายไปอีก
ปล.รูปนี้ผมถ่ายวันที่สองของทัวร์นะ แต่เอาบรรยากาศมาให้ชมกันก่อนครับ
และนี่ก็เป็นห้องพักของเราครับมีทีวีช่อง 3 ให้ดูด้วย เวลาที่มัลดีฟล์จะช้ากว่าที่ไทย 2 ชัวโมงนะครับ ในส่วนของห้องที่เราพักจะเป็นแบบ Deluxe Spa Over Water Villa ก่อนอื่นเรามาสำรวจบรรยากาศห้องพักกันก่อนดีกว่า
ห้องน้ำกว้างขวางมากครับ มีเครื่องใช้สำหรับอาบน้ำให้ครบครัน แล้วถ้าเปิดหน้าต่างเหนืออ่างล้างหน้าก็จะเห็นทะเลด้วย แปรงฟันไปก็ดูวิวสวยๆไปพร้อมกันได้ครับ
และนี่เป็นมุมสวรรค์ของผมเลยครับ มาถึงมัลดีฟส์ทั้งทีก็ต้องนอนเหนือมหาสมุทรอินเดียกันหน่อย ความพิเศษของห้องเราก็คือสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นได้จากตรงนี้เลยครับ
ระหว่างที่สำรวจห้องพักผมก็เตรียมลงฟองที่อ่างจากุชชี่ไว้รอเลยครับ เดินทางมาเหนื่อยๆได้แช่น้ำอุ่นๆในอ่างสบายน่าดูครับยิ่งมีวิวสวยๆแบบนี้ไม่พลาดแน่นอนครับ
อีกฝั่งของจากุชชีก็จะเป็นบรรไดลงเล่นน้ำได้จากห้องพักสำหรับคนที่ว่ายน้ำไม่เป็นทางรีสอร์ทมีเสื้อชูชีพให้นะครับหรือคนที่อยาก Snorkel ก็มีอุปกรณ์ให้ ทั้งหมดรวมอยู่ใน Package ทัวร์แล้วเน้อไม่มีจ่ายเพิ่มครับ
ก่อนจะไปตะลุยทะเลมัลดีฟส์ขอถ่ายภาพสวยๆเก็บเป็นที่ละลึกก่อนครับ พร้อมแล้วก็ไปเปลี่ยนชุดลงน้ำกันเลย
ชุดพร้อม ทะเลพร้อม แต่คนไม่พร้อมขอนอนชมวิวกันอีกหน่อยครับช่วงบ่ายแดดที่นี่จะแรงมากช่วงเย็นๆเหมาะแก่การเล่นน้ำมากกว่า
ระหว่างรอแดดร่มลมตก ก็เล่นน้ำในอ่างจากุชชีไปพลางๆก่อน ชีวิตดี๊ดีเนอะ ใครอยากไปเที่ยวแบบ Premium เหมือนแอดมินก็ติดต่อที่ @Maldivespluss กันได้เลยครับ
เล่นน้ำกันเหนื่อยแล้วออกไปหาอะไรกินกันดีกว่าครับ สำหรับการพักที่นี่ของเรา 3 วัน 2 คืน กินอะไรก็ได้ไม่ต้องจ่ายเพิ่มครับ
สระว่ายน้ำของโรงแรมอยู่ติดชายหาดเลยครับ เล่นน้ำทะเลเบื่อก็มาเล่นน้ำในสระแทนได้ครับ หรือจะนอนอาบแดดก็มีหลากหลายมุมให้เลือกกัน และที่สำคัญมี Pool Bar ด้วยนะครับ
พระอาทิตย์ตกดินที่มัลดัฟส์ถือเป็นภาพที่สวยงามมากเลยครับ
ในส่วนของคืนนี้ผู้ที่จอง Package ผ่านทัวร์ก็จะมาสามารถมางานปาร์ตี้ริมสระน้ำได้ครับหรือที่เรียกว่า Sundowner Canape
เราก็ไม่พลาดที่จะลองชิม Cocktail สีสันสดใส น่าตาน่ากิน ในส่วนของอาหารใน Package เรา ก็จะมี อาหารเช้า อาหารว่างช่วงเช้า อาหารกลางวัน น้ำชาย่ามบ่ายพร้อมขนม และก็อาหารเย็น สำหรับเครื่องดื่มกินได้ถึงเที่ยงคืนเลยครับ กินกันจนท้องแตกครับทริปนี้
เช้านี้ขอเปิดด้วยภาพพระอาทิตย์ขึ้นเหนือน้ำที่มัลดีฟส์ครับ
ความ Morning Kiss พระอาทิตย์ก็มาครับ
Day 2 ของทริปเราจะพาไปทัวร์รอบๆเกาะกันครับ
สำหรับคนที่จะไปดำน้ำ Scuba ก็สามารถมาขึ้นเรือที่นี่ได้ ใครที่สนใจแต่ก็จะมีคนคอยสอนให้ครับ
ในส่วนของเราไม่ได้ไปดำน้ำก็มานั่งชิวๆๆรับลมแทนครับ
นั่งชมวิวไปเพลินๆก็มีปลาตัวน้อยว่ายน้ำมาทักทาย เชิญชวนให้ลงไปว่ายน้ำเล่นกัน
ด้านหลังของเราก็จะเป็น Lobby bar ครับ อยู่บริเวณด้านหน้าสุดของรีสอร์ท สำหรับ Bar ของ Resort ก็จะมี 3 ที่ด้วยกัน คือ Lobby bar , Pool bar และก็ Viu bar ครับ
บรรยากาศรอบๆเกาะก็จะประมาณนี้ครับ
รีสอร์ทเหมาะแก่การมาเที่ยวฮันนีมูนสำหรับคู่รักมากเลยครับ งานนี้เราก็ไม่พลาดที่จะจัดเสื้อคู่มาด้วย
บรรยากาศอีกฝั่งของรีสอร์ทครับ
บรรยากาศที่สวย สงบ และเป็นส่วนตัวแบบนี้ ผมว่าต้องหาโอกาสมาสัมผัสสักครั้งในชีวิตนะครับถือเป็นรางวัลให้ชีวิต
เก็บภาพไว้ซักหน่อยสวยงามสมคำล่ำลือจริงๆครับ
เดินกันมาซักพักก็เริ่มเหนื่อยแล้วหาอะไรเย็นๆ จิบกันดีหว่าครับ สำหรับอีกส่วนของสีสอร์ทที่พลาดไม่ได้ก็คือ Viu bar บาร์กลางน้ำที่มีตาข่ายให้นอนเล่นกันครับเรียกได้ว่าเป็น Signature ของมัลดีฟส์เลยก็ว่าได้
แดดแรงขนาดนี้ออกไปนอนเล่นที่ตาข่ายคงจะไม่ไหวครับเดี๋ยวจะละลายเสียก่อน นั่งจิบน้ำเย็นข้างในเห็นจะดีกว่าครับ
ส่วนตรงกลางของ Viu bar จะเป็นพื้นที่โล่งให้เรามองดูปลาเพลินๆครับ
กินอิ่มแล้วก็ไปเล่นน้ำกันดีกว่าครับ
นั่งชิวๆหลังห้องพักรอเวลาทานข้าวเย็นครับเวลาช่างผ่านไปเร็วจริงๆ พรุ่งนี้ก็ต้องกลับแล้วเฮ้อ?.
เย็นนี้เราเลือกทานข้าวกันที่ห้องอาหาร Al Khaimah ครับเป็นอาหารสไตล์ตะวันออกกลาง สำหรับที่รีสอร์ทจะมีห้องอาหารอยู่ 4 ห้อง คือ ห้องอาหาร Al Khaimah , ห้องอาหาร RaBrezza , ห้องอาหารสวนบัว และห้องอาหาร Ocean ครับ เลือกทานกันได้เลย
และแล้ววันสุดท้ายที่มัลดีฟส์ของเราก็มาถึงพระอาทิตย์ขึ้นยังคงสวยงามเช่นเคยครับ
ก่อนกลับขอเก็บภาพความประทับใจสุดท้ายก่อนลงเรือ เป็น 3 วัน 2 คืนที่ผมไม่มีทางลืมได้ลง และถ้ามีโอกาสผมจะขอที่จะกลับมาที่นี่อีกแน่นอนครับ
